5 ทะเลสาบฮอกไกโด ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่นักเดินทางคนไหนก็ต้องไป

เมื่อฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมาถึง ทะเลสาบฮอกไกโดแต่ละแห่งจะแปลงโฉมเป็นภาพวาดธรรมชาติที่งดงามจนไม่อาจลืมเลือน — เหมือนใครบางคนใช้พู่กันจุ่มสีแดง สีส้ม และสีเหลือง มาระบายลงบนผืนป่ารอบทะเลสาบ สะท้อนกับผิวน้ำใส ๆ จนทุกอย่างดูเหมือนหลุดออกมาจากโปสการ์ด

ความพิเศษของ ฮอกไกโดฤดูใบไม้ร่วง ไม่ได้มีแค่ความสวยเท่านั้น แต่คือ "ความสงบ" ที่เดินทางมาพร้อมกับลมเย็นบางเบา กลิ่นไม้แห้ง และแสงอาทิตย์อุ่นที่ตกกระทบผ่านหมอกในยามเช้า ใครที่เคยไปแค่โตเกียวหรือโอซาก้า อาจยังไม่เคยได้เห็น "ญี่ปุ่นที่นุ่มนวลที่สุด" แบบที่ฮอกไกโดมอบให้ในช่วงเวลานี้

นักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์แท้จริงจะพบว่าทะเลสาบเหล่านี้มีเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศเงียบสงบจะทำให้คุณได้ยินเสียงขบคิดจากภายในจิตใจ ขณะที่ลมหนาวเบาๆ พัดผ่านใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี เสียงนั้นจะแทรกซึมเข้าไปในหัวใจจนกลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม

สิ่งที่ทำให้ฮอกไกโดฤดูใบไม้ร่วงแตกต่างจากที่อื่น คือความเข้มข้นของสีสันที่ธรรมชาติมอบให้ เมื่อแสงแรกของอรุณผ่านชั้นหมอกบางๆ มาส่องกระทบใบไม้ที่เปลี่ยนสี จะเห็นการไล่ระดับสีจากเหลืองอ่อน ไปจนถึงแดงเข้ม ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เสมือนศิลปินมากฝีมือคนหนึ่งได้ใช้เวลาทั้งปีเพื่อเตรียมผลงานชิ้นเอกนี้ไว้ให้ชมเพียงไม่กี่สัปดาห์

วิวธรรมชาติญี่ปุ่นที่สวยงาม อากาศเย็นสบายในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะทำให้การเดินเล่นรอบทะเลสาบเป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสดชื่น ไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นหรือความร้อนอบอ้าวแบบช่วงฤดูร้อน แต่ละย่างก้าวที่เดินไปจะพบกับมุมมองใหม่ที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนของภูเขาบนผิวน้ำ หรือลิงที่มาแช่น้ำร้อนธรรมชาติในบรรยากาศที่เย็นสบาย

ถ้าคุณกำลังมองหาการเดินทางที่ไม่ใช่แค่การเช็กอิน แต่เป็นการ สัมผัส — สัมผัสธรรมชาติ สัมผัสใจตัวเอง และสัมผัสฤดูกาลที่มีอยู่แค่เพียงไม่กี่สัปดาห์ในรอบปี

คุณมาถูกทางแล้วครับ

เพราะทะเลสาบเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่แหล่งท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็น "จุดชมวิว" ที่เต็มไปด้วยพลังบางอย่างที่ช่วยเติมเต็มความรู้สึกให้กับทุกคนที่ได้ไปเยือน การได้นั่งเงียบๆ ริมทะเลสาบในช่วงเวลาที่แสงส้มของพระอาทิตย์ตกดินส่องผ่านใบไม้ จะทำให้คุณเข้าใจได้ว่าทำไมญี่ปุ่นถึงมีวัฒนธรรมการชื่นชมธรรมชาติที่ลึกซึ้งขนาดนี้

ใครที่เคยฝันอยากสัมผัสวิวธรรมชาติญี่ปุ่น บนเกาะฮอกไกโดฤดูใบไม้ร่วง แบบที่ลึกซึ้งและมีสไตล์ ต้องรีบเซฟลิสต์นี้ไว้! เพราะแต่ละที่คือภาพจำที่คุณจะไม่มีวันลืม และเป็นเส้นทางที่รอให้คุณเก็บไว้ในหัวใจ


ทะเลสาบมาชู (Lake Mashu) – "ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์แห่งฮอกไกโด"

หนึ่งใน ทะเลสาบฮอกไกโด ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกคือ ทะเลสาบมาชู (Lake Mashu) ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Akan-Mashu บนเกาะฮอกไกโด ทะเลสาบแห่งนี้มีต้นกำเนิดจากปล่องภูเขาไฟ ทำให้มีลักษณะเป็นแอ่งลึกและมีน้ำใสบริสุทธิ์ระดับ “คริสตัล” โดยเฉพาะในวันที่ท้องฟ้าเปิด น้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเข้มจนดูราวกับอัญมณีธรรมชาติ และในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ผืนน้ำยังสะท้อนภาพของใบไม้แดง เหลือง และส้มจากป่าโดยรอบได้อย่างชัดเจน ราวกับกระจกยักษ์กลางธรรมชาติ

ทะเลสาบมาชูไม่ได้มีวิวธรรมชาติญี่ปุ่นที่จับต้องได้ด้วยสายตา แต่ยังเต็มไปด้วยตำนานลี้ลับที่ชวนให้หลงใหล ตามความเชื่อของชาวไอนุ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมของฮอกไกโด ทะเลสาบแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เทพเจ้าสถิตอยู่ และจึงมีข้อห้ามไม่ให้ผู้ใดลงไปในน้ำโดยตรง อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าที่ยังคงแพร่หลายในหมู่วัยรุ่นญี่ปุ่นว่า หากใครมาเยือนทะเลสาบแล้วไม่เจอหมอก จะได้แต่งงานช้า จึงทำให้ทะเลสาบมาชูได้รับฉายาว่า “ทะเลสาบแห่งความรัก” ที่ทั้งงดงามและมีมนตร์ขลังในเวลาเดียวกัน

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมวิวทะเลสาบแบบเต็มตา แนะนำให้เดินทางไปยัง จุดชมวิว Mashu Observatory ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบได้แบบ 360 องศา ในช่วงเช้าตรู่หรือยามเย็น แสงอาทิตย์ที่ตกกระทบใบไม้จะยิ่งเพิ่มความสดของสี และทำให้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำยิ่งชัดเจนอย่างน่าประทับใจ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายและความเงียบสงบของธรรมชาติ ทะเลสาบมาชูจึงไม่เพียงเป็นหนึ่งในทะเลสาบของฮอกไกโดที่สวยที่สุด แต่ยังเป็นสถานที่ที่ชวนให้ใครหลายคนกลับมาเยือนซ้ำอีกครั้งในทุกฤดู

ทะเลสาบอะคัง (Lake Akan) – "ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวไอนุ"

ในบรรดา ทะเลสาบฮอกไกโด ที่มีชื่อเสียงและเสน่ห์โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่ง คงหนีไม่พ้น ทะเลสาบอะคัง (Lake Akan) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Akan-Mashu ทะเลสาบแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ทิวทัศน์ที่งดงามแบบฉบับญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นบ้านของ สาหร่ายมาริโมะ (Marimo) พืชน้ำเขียวกลมที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักและความโชคดี นอกจากนี้ ทะเลสาบอะคังยังถือเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าไอนุ ชนพื้นเมืองดั้งเดิมของฮอกไกโด ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและวิถีชีวิตไว้ได้อย่างน่าชื่นชม

เมื่อเข้าสู่ช่วง ฤดูใบไม้ร่วงของฮอกไกโด ทะเลสาบอะคังจะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นภาพพาโนรามาของใบไม้หลากสี ไล่เฉดตั้งแต่เหลืองทอง ส้มอำพัน ไปจนถึงแดงเข้ม ความงดงามของใบไม้ที่สะท้อนลงบนผิวน้ำใสสงบของทะเลสาบ ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม ที่ไม่ว่าจะหันกล้องไปทางไหนก็ได้ภาพที่สวยงามราวกับโปสการ์ด อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบที่เงียบสงบ เย็นสบาย และมีลมอ่อนพัดผ่าน ทำให้การเดินเล่นหรือพักผ่อนริมทะเลสาบในฤดูกาลนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม

ความพิเศษอีกอย่างของทะเลสาบอะคังคือความสะดวกสบายในการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักผ่อนในโรงแรมออนเซ็นรอบทะเลสาบ พร้อมลิ้มลองอาหารท้องถิ่นจากร้านอาหารน่ารัก ๆ ที่ตั้งเรียงราย หรือแวะไปเยือน หมู่บ้านไอนุโคตัน (Ainu Kotan) เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมพื้นเมืองผ่านงานฝีมือ การแสดงดั้งเดิม และบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ การล่องเรือรอบทะเลสาบในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ก็เป็นอีกกิจกรรมยอดนิยมที่ทำให้ได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด พร้อมซึมซับความสงบของทะเลสาบแห่งนี้อย่างเต็มอิ่ม

ทะเลสาบคุชชาโระ (Lake Kussharo) – "ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่สุด"

ทะเลสาบฮอกไกโด ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟทั่วญี่ปุ่น คือ ทะเลสาบคุชชาโระ (Lake Kussharo) ด้วยเส้นรอบวงกว่า 57 กิโลเมตร และความลึกถึง 117 เมตร จุดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้อยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ผุดขึ้นจากใต้ดิน ซึ่งทำให้น้ำบางส่วนไม่กลายเป็นน้ำแข็งแม้ในฤดูหนาว ความอบอุ่นจากไอน้ำธรรมชาติเหล่านี้ได้สร้างภาพงดงามชวนฝันที่นักเดินทางต้องมนตร์ทุกครั้งที่มาเยือน

เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศรอบ ทะเลสาบคุชชาโระ จะเปลี่ยนเป็นฉากธรรมชาติที่งดงามเกินบรรยาย ป่าไม้และขุนเขารอบทะเลสาบจะเรืองรองด้วยสีแดง ส้ม และเหลืองทอง สะท้อนกับผิวน้ำที่ลอยอุ่นไอน้ำเบา ๆ ในยามเช้าตรู่ แสงแดดที่สาดลงมาทำให้ภาพตรงหน้าดูเหมือนอยู่ในภาพวาดที่มีชีวิต ทั้งโรแมนติก สงบ และเปี่ยมด้วยพลังธรรมชาติ

จุดชมวิวที่ดีที่สุดคือ Kotan Onsen ออนเซ็นกลางแจ้งริมทะเลสาบที่คุณสามารถแช่น้ำร้อนท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบได้อย่างเต็มที่ และหากอยากสัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ยิ่งขึ้น อย่าพลาด Sand Bath การฝังตัวในทรายร้อนริมทะเลสาบที่จะช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างลึกซึ้ง สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการพักผ่อนอย่างแท้จริงในอ้อมกอดของธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ของ ทะเลสาบฮอกไกโด ไว้อย่างเต็มเปี่ยม

ทะเลสาบอนเนตโตะ (Lake Onneto) – "จุดลับที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก"

ท่ามกลางป่าลึกของเกาะเหนือ ญี่ปุ่นยังมีหนึ่งใน ทะเลสาบฮอกไกโด ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก — ทะเลสาบอนเนตโตะ (Lake Onnetō) แม้จะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับทะเลสาบอื่น ๆ แต่กลับมีความงดงามที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร ด้วยผืนน้ำที่เปลี่ยนสีได้ตามแสงแดด ตั้งแต่เขียวใสไปจนถึงน้ำเงินเข้ม จนได้รับฉายาว่า “ทะเลสาบสีเขียวมรกต”

ในช่วง ฤดูใบไม้ร่วงของฮอกไกโด ทะเลสาบอนเนตโตะจะกลายเป็นฉากในฝันของเหล่าช่างภาพ ด้วยฉากหลังคือภูเขาไฟเมอัน-ดะเกะที่แต้มด้วยใบไม้แดง เหลือง และส้ม โอบล้อมผืนน้ำสีมรกตของทะเลสาบไว้อย่างงดงาม การสะท้อนของแสงแดดยามเช้าหรือเย็นยิ่งทำให้ภาพตรงหน้านั้นราวกับภาพวาดมีชีวิต ซึ่งหาชมได้เพียงไม่กี่วันในรอบปี

เส้นทางสู่จุดชมวิวที่ดีที่สุดอย่าง Onneto Observatory ต้องผ่านการเดินป่าระยะสั้นประมาณ 10 นาที ระหว่างทางเต็มไปด้วยความสดชื่นของป่าเขาและเสียงธรรมชาติ เป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มความงามทั้งทางสายตาและหัวใจ ทำให้การมาเยือนทะเลสาบฮอกไกโดแห่งนี้ ไม่ใช่แค่การเที่ยวธรรมชาติ แต่คือการเดินทางเข้าสู่ความเงียบสงบอย่างแท้จริง

ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) – "ทะเลสาบแห่งความผ่อนคลาย"

หนึ่งใน ทะเลสาบฮอกไกโด ที่น่าหลงใหลที่สุดคือ ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) ซึ่งเกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายแสนปีก่อน ความโดดเด่นของทะเลสาบนี้อยู่ที่รูปทรงเกือบกลมสมบูรณ์ และมีเกาะเล็ก ๆ สี่เกาะอยู่กลางน้ำที่เรียกรวมกันว่า “Nakajima” ด้วยลักษณะภูมิประเทศและภูมิทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น UNESCO Global Geopark

ในช่วง ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของฮอกไกโด บริเวณรอบทะเลสาบโทยะจะเปลี่ยนเป็นภาพวาดธรรมชาติที่เต็มไปด้วยสีสัน ทั้งเหลือง แดง และส้ม โดยเฉพาะบริเวณ ภูเขาไฟ Mount Usu ที่ยังคุกรุ่นอยู่ แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมได้อย่างปลอดภัย จุดเด่นอีกอย่างคือแหล่งออนเซ็นจำนวนมากที่ตั้งเรียงรายอยู่รอบทะเลสาบ ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ

สำหรับจุดชมวิวที่ห้ามพลาด ได้แก่ Sailo Observatory ซึ่งสามารถมองเห็นทะเลสาบพร้อมเกาะกลางน้ำได้อย่างชัดเจน และ Mount Usu Observatory ที่สามารถขึ้นไปด้วยกระเช้าลิฟต์ เพื่อชมวิวแบบพาโนรามา 360 องศา นอกจากนี้ นักท่องเทียวยังสามารถล่องเรือรอบเกาะ Nakajima เพื่อซึมซับบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีในมุมที่ต่างออกไป เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนฮอกไกโด

เคล็ดลับการเดินทางชมทะเลสาบฮอกไกโดในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

การวางแผนเดินทางไปชมความงามของทะเลสาบฮอกไกโดช่างฤดูใบไม้เปลี่ยนสีต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยสำคัญ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่ระหว่างกลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยพีคของความงดงามจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม

การเตรียมตัวสำหรับสภาพอากาศ

สภาพอากาศที่ฮอกไกโดจะมีอุณหภูมิประมาณ 5-15 องศาเซลเซียส การเตรียมเสื้อผ้าอุ่นและกันน้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากอาจมีฝนปรอยๆ ในบางช่วง รองเท้าสำหรับเดินป่าที่มีดอกยางกันลื่นจะช่วยให้คุณเดินชมธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อใบไม้ร่วงหล่นปกคลุมพื้น การแต่งกายแบบเลเยอร์จะช่วยให้ปรับเสื้อผ้าได้ตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดวัน

เทคนิคการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ

การถ่ายภาพทะเลสาบจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงามที่สุดในช่วงเช้าตรู่ระหว่าง 6:00-8:00 น. และยามเย็นประมาณ 16:00-18:00 น. แสงอ่อนนุ่มในช่วงเวลาทองคำจะทำให้สีของใบไม้ดูสดใสและอิ่มตัว การชมภาพสะท้อนบนผิวน้ำจะสวยงามมากในวันที่ลมสงบ เพราะผิวน้ำจะเรียบเหมือนกระจกธรรมชาติ

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ควรเตรียมฟิลเตอร์ polarizer เพื่อลดแสงสะท้อนและทำให้สีดูเข้มขึ้น การใช้ tripod จะช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดในช่วงแสงน้อย นอกจากนี้ยังควรเตรียมแบตเตอรี่สำรองเพิ่มเติม เนื่องจากอากาศหนาวจะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติ

การเข้าใจพฤติกรรมของใบไม้

ระดับความสูงที่แตกต่างกันจะส่งผลให้ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเวลาที่ไม่เหมือนกัน บริเวณที่ราบสูงจะเริ่มเปลี่ยนสีก่อน ตามด้วยพื้นที่ระดับกลางและระดับต่ำตามลำดับ การวางแผนเส้นทางให้ครอบคลุมหลายระดับความสูงจะช่วยให้คุณได้เห็นการไล่ระดับสีที่หลากหลายและน่าประทับใจ ความชื้นในอากาศและปริมาณฝนในช่วงก่อนหน้านี้ก็มีผลต่อความสดใสของสีสันเช่นกัน

ประสบการณ์สุดพิเศษกับ CompaxWorld

CompaxWorld นำเสนอบริการทัวร์ชมทะเลสาบฮอกไกโดในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีในการจัดทัวร์ญี่ปุ่น เราเข้าใจจุดเด่นของแต่ละทะเลสาบและช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการชม เพื่อให้นักเดินทางได้สัมผัสความงามแบบเต็มรูปแบบที่สุด

บริการที่โดดเด่นของเรา

การเลือกจุดชมวิวพิเศษที่นักท่องเที่ยวทั่วไปไม่ค่อยได้เข้าถึง การจัดที่พักโรงแรมออนเซ็นริมทะเลสาบที่มีวิวธรรมชาติที่สวยงาม และการคัดสรรอาหารพื้นเมืองฮอกไกโดคุณภาพสูง คือสิ่งที่ CompaxWorld มุ่งมั่นมอบให้กับลูกค้าทุกท่าน การจัดกรุ๊ปขนาดเล็กจะทำให้ได้รับความสะดวกสบายและการดูแลอย่างใกล้ชิด

เรายังมีมัคคุเทศก์มืออาชีพที่มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่น พร้อมแนะนำจังหวะเวลาและมุมถ่ายภาพที่สวยงามที่สุด การจัดเส้นทางการเดินทางที่คำนึงถึงสภาพอากาศและฤดูกาลจะทำให้คุณได้เห็นความงามของธรรมชาติในรูปแบบที่สมบูรณ์แบบ

คำมั่นสัญญาแห่งความประทับใจ

บริการของเราไม่ได้จำกัดเพียงแค่การพาชมสถานที่ท่องเที่ยว แต่เรามุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ที่จะติดตามคุณไปตลอดชีวิต การได้นั่งริมทะเลสาบในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมกับความสงบและบรรยากาศที่บริสุทธิ์ การได้ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ และการได้พักผ่อนในออนเซ็นที่อบอุ่นหลังจากวันที่เต็มไปด้วยความประทับใจ

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่จะเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป การชมทะเลสาบฮอกไกโดในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ความงดงามที่เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ ในรอบปีจะมอบความรู้สึกพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น

เริ่มต้นการผจญภัยของคุณ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดทัวร์กับ CompaxWorld วันนี้ เพื่อไม่พลาดโอกาสสัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโด ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมวางแผนการเดินทางที่เหมาะกับความต้องการของคุณ เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่น่าจดจำและมีคุณค่าที่สุด

ติดต่อเราโทร : 02-169-1766 มือถือ: 082-793-6146, 082-793-6166 Line : @compaxworld