
ไปเที่ยวนากาโน่ ต้องไม่พลาด 7 ที่เที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่นสุดอลังการ
การไปเที่ยวนากาโน่ถือเป็นประสบการณ์ที่นักเดินทางหลายคนใฝ่ฝัน เนื่องจากนากาโน่ (Nagano) เป็นจังหวัดที่มีความงดงามทางธรรมชาติอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ ป่าไม้ และแหล่งท่องเที่ยวที่ผสมผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลงตัว การไปนากาโน่ในช่วงฤดูกาลต่างๆ จะทำให้คุณได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่แตกต่างและน่าประทับใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายผจญภัย สายถ่ายภาพ หรือสายชิลล์ นากาโน่ตอบโจทย์ได้ทุกแบบ
นากาโน่เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ (Chubu) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ของญี่ปุ่น มีลักษณะภูมิประเทศที่โดดเด่นด้วยภูเขาสูงและหุบเขาที่งดงาม เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งและธรรมชาติ นากาโน่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1998 ซึ่งได้แสดงถึงศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวอย่างดีเยี่ยม
ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน นากาโน่ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าดึงดูด ในฤดูใบไม้ผลิ คุณจะได้พบกับดอกซากุระบานสะพรั่งริมทางเดินและทิวทัศน์ที่สดชื่น ฤดูร้อนเต็มไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า ปีนเขา หรือแม้แต่ล่องแก่งในลำน้ำที่ใสสะอาด ฤดูใบไม้ร่วงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน เพราะใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง และเหลืองทั่วทุกมุม ส่วนในฤดูหนาว นากาโน่จะเปลี่ยนเป็นดินแดนหิมะที่สวยงาม เหมาะกับการเล่นสกีและสัมผัสออนเซ็นกลางหิมะ
นอกจากความงามทางธรรมชาติ นากาโน่ยังมีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย ทั้งวัดเซ็นโคจิ (Zenkoji Temple) ที่เก่าแก่กว่า 1,400 ปี ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมือง การไปนากาโน่จึงไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ แต่ยังเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นอีกด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้นากาโน่เป็นที่นิยมคือ การท่องเที่ยวแบบผ่อนคลาย เช่น การอาบป่าญี่ปุ่น (Forest Therapy) ที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนผ่านการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ นากาโน่ถือเป็นสถานที่ต้นกำเนิดของแนวคิดนี้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะการอาบป่าญี่ปุ่นสามารถช่วยลดความเครียดและฟื้นฟูสุขภาพจิตได้อย่างดี
นอกจากกิจกรรมเชิงธรรมชาติแล้ว นากาโน่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น เช่น การเดินเล่นที่ถนนนาคามิเสะ (Nakamise Street) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่และขนมพื้นเมือง นอกจากนี้ยังมีคารุอิซาวะ (Karuizawa) เมืองรีสอร์ทที่เต็มไปด้วยคาเฟ่ฮิปๆ และช้อปปิ้งสตรีทที่มีเสน่ห์
การเที่ยวนากาโน่จึงไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่คุ้มค่ากับเวลาและการเดินทาง การได้เห็นทิวทัศน์อันงดงาม ฟังเสียงน้ำไหลจากลำธาร สูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิม ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืม
บทความนี้จะแนะนำ 7 ที่เที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่นสุดอลังการในนากาโน่ ที่ไม่ควรพลาด! แต่ละสถานที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวและมีกิจกรรมที่ทำให้คุณได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!
1. สวนลิง Jigokudani Yaen-Koen
ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวนากาโน่ หนึ่งในไฮไลท์ที่หลายคนพูดถึงคือ สวนลิง Jigokudani Yaen-Koen ตั้งอยู่ในหุบเขาโยโคยุ (Yokoyu Valley) ภายในอุทยานแห่งชาติ Joshinetsu-Kogen สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะที่อยู่อาศัยของลิงหิมะญี่ปุ่น (Japanese macaques) ที่มักลงมาแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางหิมะโปรยปราย
การไปเที่ยวนากาโน่ที่สวนลิงแห่งนี้เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนในโลก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ลิงจะลงมาอาบน้ำอุ่นในบ่อน้ำพุร้อน กลายเป็นภาพที่น่ารักและน่าจดจำ ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในที่เที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด ไม่เพียงแต่ได้เห็นลิงแช่น้ำอุ่นอย่างเพลิดเพลิน แต่ยังได้สัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นพร้อมชมวิวหิมะที่ปกคลุมทั่วหุบเขา
2. Kamikochi (เส้นทางคามิโคจิ)
หนึ่งในไฮไลท์ที่เที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่น คงไม่มีใครไม่นึกถึง เส้นทางคามิโคจิ ถือเป็นอัญมณีล้ำค่าของอุทยานแห่งชาติ Chubu Sangaku การไปเที่ยวนากาโน่โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงจะได้พบกับทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาด เส้นทางคามิโคจิเป็นที่รู้จักในฐานะจุดเริ่มต้นของการเดินป่าชมธรรมชาติในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น
นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นที่สะพานคัปปะ (Kappa Bridge) ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม โดยรอบข้างมีแม่น้ำอะซุสะ (Azusa River) ไหลผ่านอย่างเงียบสงบ ทิวเขาสูงตระหง่านโอบล้อม เพิ่มความรู้สึกปลอดโปร่งและสดชื่น การไปเที่ยวนากาโน่ที่คามิโคจิจะทำให้คุณได้สัมผัสความงามของธรรมชาติญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านป่าสนเขียวขจี การชมวิวทิวเขาที่สะท้อนในแม่น้ำ หรือการพักผ่อนท่ามกลางป่าเขาที่สวยงามของเส้นทางคามิโคจิ
3. ไปเที่ยวฮาคุบะ (Hakuba Valley)
ไปเที่ยวฮาคุบะ ต้องไม่พลาดการสัมผัสประสบการณ์ลานสกีระดับโลก! ฮาคุบะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่กลางเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) เป็นที่เที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่น และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเล่นสกีและสโนว์บอร์ดทั่วโลก
การไปเที่ยวฮาคุบะในฤดูหนาวนั้นตื่นตาตื่นใจด้วยหิมะละเอียดปุยเหมือนแป้ง ส่วนในฤดูร้อนก็สามารถปีนเขา ปั่นจักรยานเสือภูเขา และล่องแก่งในแม่น้ำได้ การไปเที่ยวนากาโน่ในช่วงฮาคุบะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ทั้งสนุกและประทับใจ นอกจากการเล่นสกีแล้ว ฮาคุบะยังมีเส้นทางเดินป่าที่สามารถชมวิวเทือกเขาและธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม
4. Karuizawa (คารุอิซาวะ)
ถ้าต้องการพักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ การไปเที่ยวนากาโน่ต้องแวะที่ คารุอิซาวะ (Karuizawa) เมืองรีสอร์ทสุดหรูที่ตั้งอยู่เชิงเขาอาซามะ (Mount Asama) ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
คารุอิซาวะมีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น ปั่นจักรยานชมธรรมชาติ เดินเล่นที่ถนนเก่า Kyukaruizawa Ginza และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีช้อปปิ้งเอาท์เล็ตที่โด่งดัง เหมาะสำหรับคนรักการช้อปอย่างแท้จริง การมาเที่ยวคารุอิซาวะเป็นการพักผ่อนที่ลงตัวทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม
5. Senjojiki Cirque (เซนโจจิกิ เซอร์ก)
อีกหนึ่งจุดที่ต้องไปเที่ยวนากาโน่คือ Senjojiki Cirque สามารถเดินทางโดยกระเช้า Komagatake Ropeway เพื่อขึ้นไปสัมผัสวิวทิวทัศน์ของภูเขาแอลป์ตอนกลาง ดอกไม้ป่าที่บานสะพรั่งในช่วงฤดูร้อนทำให้ที่นี่ดูเหมือนภาพในนิทาน
Senjojiki Cirque เหมาะสำหรับการเดินป่าเบาๆ และการถ่ายภาพธรรมชาติ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ต้นไม้เปลี่ยนสีอย่างสวยงาม การเดินป่าในเส้นทางนี้เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่นที่คุณไม่ควรพลาด
6. เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route
การไปเที่ยวนากาโน่จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้สัมผัสกับ เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route เส้นทางท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดโทยามะและนากาโน่ ไฮไลท์สำคัญคือกำแพงหิมะสูง 20 เมตร ที่สามารถพบได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
เส้นทางนี้ถือเป็นที่เที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่นที่น่าทึ่ง เพราะสามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินทางผ่านกำแพงหิมะยักษ์ ทะเลสาบคุโรเบะ และวิวภูเขาสูงในมุมมองพาโนรามา
7. เส้นทาง Venus Line
หากคุณรักการขับรถชมวิว การไปเที่ยวนากาโน่ต้องไม่พลาด เส้นทาง Venus Line ที่เชื่อมต่อระหว่างเมือง Chino และ Ueda ถนนสายนี้เต็มไปด้วยวิวธรรมชาติที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และที่ราบสูง
เส้นทาง Venus Line นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติญี่ปุ่นที่สามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง วิวพาโนรามาของทิวเขาที่เปลี่ยนสีตามฤดูกาลสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
การไปเที่ยวนากาโน่ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังเป็นการผจญภัยในดินแดนที่เปี่ยมด้วยวัฒนธรรมและความอบอุ่นของผู้คน แต่ละสถานที่ที่แนะนำในบทความนี้คือจุดหมายปลายทางที่คุณควรสัมผัสสักครั้งในชีวิต
บริการทัวร์จาก CompaxWorld
อยากไปเที่ยวนากาโน่แบบครบทุกจุดต้องที่ CompaxWorld เรานำเสนอทัวร์พรีเมียม บริการอบอุ่นแบบ Omotenashi ให้คุณได้สัมผัสความงามของนากาโน่ในทุกมุมมอง เดินทางสะดวก ไกด์มืออาชีพ ดูแลทุกขั้นตอน รวมถึงทัวร์สุดพิเศษที่จะนำทุกท่านไปอาบป่าญี่ปุ่น ถือเป็นประสบการณ์พิเศษที่ทุกท่านห้ามพลาด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-169-1766, 082-793-6146, 082-793-6166