ที่เที่ยวคากาวะ เปิดลิสต์ 5 จุดลับน่าไปที่คนญี่ปุ่นยังอยากแนะนำ

หากพูดถึง ที่เที่ยวคากาวะ หลายคนอาจนึกถึงเพียงแค่เส้นทางแสวงบุญหรือเกาะเล็กๆ เท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว คากาวะ คือจังหวัดที่เล็กที่สุดของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่แพ้จังหวัดใหญ่ๆ เลยทีเดียว ที่นี่ซ่อน "จุดเที่ยวลับ" มากมายที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งวิวธรรมชาติสุดตระการตา หมู่บ้านโบราณ คาเฟ่ริมทะเลแบบฮิดเด้นเจม ไปจนถึงสวนญี่ปุ่นระดับโลกที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองยังอยากแนะนำให้ไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

คากาวะ ไม่ได้มีแค่เส้นทางจาริกแสวงบุญอย่างที่หลายคนคิด แต่ยังมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ตั้งแต่การล่องเรือชมวิวทะเล การเดินป่าเบาๆ ตามเส้นทางธรรมชาติ การชิมอาหารพื้นเมืองอย่างอุด้งซานุกิชื่อดัง ไปจนถึงการสัมผัสประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นผ่านหมู่บ้านเก่าและวัดศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีเทศกาลท้องถิ่นที่อบอวลด้วยบรรยากาศน่ารักและอบอุ่นอีกมากมาย

สำหรับใครที่กำลังวางแผนว่าจะ เที่ยวคากาวะช่วงไหนดี คำตอบก็คือ คากาวะสวยทุกฤดูกาล ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากสัมผัสบรรยากาศแบบไหน ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม–พฤษภาคม) จะได้ชมซากุระบานสะพรั่งทั่วเมือง ในขณะที่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม–พฤศจิกายน) จะได้พบกับ คากาวะ ใบไม้เปลี่ยนสี ที่แต่งแต้มสีสันให้สวนและภูเขาทั้งลูกกลายเป็นพรมสีแดงทองสุดโรแมนติก

บทความนี้เราจะพาคุณไปเปิดลิสต์ 5 จุดลับน่าไปในคากาวะ ที่นักท่องเที่ยวสายลึกไม่ควรพลาด พร้อมแนะนำเคล็ดลับการเที่ยวให้สนุกที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแวะเยือน เกาะโชโดะชิมะ คากาวะ ที่ได้ชื่อว่าเป็น "เกาะมะกอกแห่งญี่ปุ่น" และมีสะพานทราย Angel Road อันแสนโรแมนติก หรือจะเป็นการเดินเล่นใน สวนริทสึริน ที่เที่ยวคากาวะ ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสวนญี่ปุ่นที่สวยที่สุดในประเทศ ด้วยทัศนียภาพที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล

เตรียมพร้อมเปิดประตูสู่ "อีกมุมหนึ่งของญี่ปุ่น" ที่น่าหลงใหลและไม่ซ้ำใครกับ ที่เที่ยวคากาวะ ที่คุณจะหลงรักตั้งแต่ก้าวแรกที่ไปถึง

1. สวนริทสึริน ที่เที่ยวคากาวะ - สวนญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นยกย่องว่าสวยที่สุด

สวนริทสึริน ที่เที่ยวคากาวะ ถือเป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดคากาวะ และได้รับเลือกให้เป็น "สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม" ของญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่าสามร้อยปี ตั้งแต่ยุคเอโดะ สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเหล่าไดเมียว (ขุนนางท้องถิ่น) และยังได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันเรื่อยมา พื้นที่ทั้งหมดกว่า 75 เฮกตาร์ แบ่งออกเป็น 6 บ่อ 13 เนินเขาจำลอง มีทั้งต้นสนอายุกว่าหลายร้อยปี ต้นเมเปิล และต้นพลัมที่ให้ดอกงามตามฤดูกาล

จุดเด่นของสวนริทสึริน คือการวางภูมิทัศน์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เน้น "ความงามตามธรรมชาติ" ทุกเส้นทางในสวนนำสายตาไปสู่วิวที่แตกต่างกัน เช่น บึงน้ำที่สะท้อนภาพสะพานไม้โค้ง ต้นไม้ที่ตัดแต่งอย่างประณีต และภูเขาจำลองที่ใช้เทคนิคสร้างมุมมองลึกได้อย่างน่าทึ่ง
ผู้มาเยือนสามารถนั่งเรือชมวิวในสระใหญ่กลางสวน พร้อมเพลิดเพลินไปกับเสียงนกร้องและสายลมเย็นที่พัดผ่านต้นสน

หากสงสัยว่า เที่ยวคากาวะช่วงไหนดี เพื่อเยี่ยมชมสวนแห่งนี้ คำตอบที่ดีที่สุดคือช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะในช่วง คากาวะ ใบไม้เปลี่ยนสี สวนริทสึรินจะเต็มไปด้วยเฉดสีแดง ส้ม และเหลือง ตัดกับบึงน้ำสีเขียวมรกต สร้างภาพที่งดงามเหนือคำบรรยาย อีกทั้งยังมีโรงน้ำชาโบราณกลางสวนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมชาเขียวร้อนๆ คู่กับขนมหวานแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ท่ามกลางบรรยากาศสวนที่เงียบสงบ

ไม่ว่าจะมาเดินเล่น ถ่ายภาพ หรือพักผ่อนใจกลางธรรมชาติ สวนริทสึริน ที่เที่ยวคากาวะ แห่งนี้ จะทำให้คุณได้สัมผัสความงามของวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบแท้จริงที่ไม่ควรพลาด

2. เกาะโชโดะชิมะ คากาวะ - เกาะมะกอกแห่งญี่ปุ่น

อีกหนึ่ง ที่เที่ยวคากาวะ ที่โด่งดังไม่แพ้ใครก็คือ เกาะโชโดะชิมะ คากาวะ หรือที่หลายคนเรียกว่า "เกาะมะกอกแห่งญี่ปุ่น" เพราะเป็นแหล่งปลูกมะกอกแห่งแรกของประเทศ ตั้งอยู่ในทะเลเซโตะในอันงดงาม เกาะแห่งนี้เปรียบเสมือนโอเอซิสเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์แบบเมดิเตอร์เรเนียน ไร่มะกอกเขียวขจีทอดตัวยาวไปตามแนวเขา และมีชายหาดที่น้ำทะเลสีฟ้าใสราวกับกระจก

หนึ่งในจุดเด่นของเกาะนี้คือ Angel Road สะพานทรายธรรมชาติที่โผล่ขึ้นมาให้เดินข้ามได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น เชื่อกันว่าหากคู่รักจับมือเดินข้ามสะพานนี้ไปด้วยกัน จะพบเจอความสุขตลอดไป นอกจากนี้ยังมี Olive Park สวนมะกอกขนาดใหญ่ ที่มีทั้งโรงงานผลิตน้ำมันมะกอก พิพิธภัณฑ์มะกอก และมุมถ่ายรูปสุดชิคที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่

นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติแล้ว เกาะโชโดะชิมะ คากาวะ ยังมีเส้นทางเดินป่าระยะสั้นที่ตัดผ่านไร่มะกอกและป่าไผ่ เปิดโอกาสให้สัมผัสธรรมชาติใกล้ชิดอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งแบบไม่เร่งรีบ

ถ้าถามว่า เที่ยวคากาวะช่วงไหนดี เพื่อชมความงามของเกาะนี้ ต้องบอกเลยว่าทั้งฤดูใบไม้ผลิ (ช่วงเมษายน) และฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (พฤศจิกายน) คือช่วงที่วิวสวยที่สุด เพราะในฤดูใบไม้ผลิคุณจะได้เห็นไร่มะกอกสีเขียวสด ตัดกับท้องฟ้าใส ส่วนช่วง คากาวะ ใบไม้เปลี่ยนสี วิวบนเกาะจะเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อนๆ สวยงามน่าหลงใหลไปอีกแบบ

หากได้มีโอกาสมาเยือน เกาะโชโดะชิมะ คากาวะ สักครั้ง รับรองว่าคุณจะหลงเสน่ห์ความสงบ เรียบง่าย และมนต์ขลังของเกาะแห่งนี้จนอยากกลับมาอีกครั้งแน่นอน

3. หุบเขาอิยะ (Iya Valley) - สะพานเถาวัลย์กลางขุนเขา

ที่เที่ยวคากาวะ ที่น้อยคนนักจะรู้จักอีกแห่งหนึ่ง คือหุบเขาอิยะ ซึ่งมีสะพานเถาวัลย์โบราณพาดข้ามแม่น้ำสีฟ้าใส สะพานนี้ถูกสร้างด้วยเถาวัลย์ขนาดใหญ่ผูกสานกันอย่างแน่นหนา จนกลายเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของภูมิภาคชิโกกุ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความรู้สึกตื่นเต้นขณะเดินข้ามสะพานที่สั่นไปตามแรงลมและฝ่าไปกลางป่าเขา
หากวางแผนว่า เที่ยวคากาวะช่วงไหนดี สำหรับหุบเขาแห่งนี้ ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคือที่สุด เพราะทั้งหุบเขาจะถูกย้อมด้วยสีแดงและทองสวยงาม จนต้องหยุดหายใจเมื่อได้เห็นวิวตรงหน้า

4. เกาะนาโอชิมะ (Naoshima Island) – เกาะศิลปะกลางทะเลที่คนญี่ปุ่นยังหลงรัก

เกาะนาโอชิมะ (Naoshima Island) อาจไม่ใช่จุดหมายแรกๆ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินึกถึงเวลาเลือก ที่เที่ยวคากาวะ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นที่รักศิลปะและธรรมชาติแล้ว ที่นี่คือ “จุดหมายในฝัน” ที่ต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต ด้วยขนาดเกาะที่ไม่ใหญ่จนเกินไป แต่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลก งานอินสตอลเลชั่นกลางธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมสุดล้ำที่ผสานเข้ากับทิวทัศน์ของทะเลเซโตะในอย่างกลมกลืน

ไฮไลต์ของเกาะแห่งนี้คือ Benesse Art Site Naoshima ที่รวมเอาผลงานของศิลปินระดับโลก เช่น Yayoi Kusama, James Turrell และ Tadao Ando มาไว้ในพื้นที่เดียวกัน โดยเฉพาะ "ฟักทองสีเหลืองริมทะเล" (Yellow Pumpkin) ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะนี้ไปแล้ว

นอกจากพิพิธภัณฑ์และงานศิลป์ต่างๆ แล้ว เกาะนาโอชิมะยังมีความสงบแบบหมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิม ร้านกาแฟเก๋ๆ ริมอ่าว และมุมถ่ายรูปสุดชิลล์ที่เหมาะกับคนที่ชอบการเดินเที่ยวสบายๆ ช้าๆ พร้อมเก็บรายละเอียดของสิ่งรอบตัว

หากถามว่า เที่ยวคากาวะช่วงไหนดี สำหรับการมาเยือนเกาะนาโอชิมะ คำตอบที่ดีที่สุดคือช่วงปลายฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (กันยายน – พฤศจิกายน) เพราะอากาศกำลังดี ไม่ร้อนเกินไป ท้องฟ้าโปร่ง วิวพระอาทิตย์ตกกลางทะเลเงียบสงบก็จะยิ่งงดงาม และบรรยากาศของเกาะในช่วงนี้ก็เต็มไปด้วยความโรแมนติกแต่ไม่วุ่นวาย

หากคุณเป็นคนที่ชอบศิลปะ ชอบมองหาที่เที่ยวที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร และอยากสัมผัสญี่ปุ่นในอีกมุมหนึ่งที่สงบ สร้างแรงบันดาลใจ และมีวัฒนธรรมร่วมสมัยแบบกลมกล่อม — เกาะนาโอชิมะ คือหนึ่งใน ที่เที่ยวคากาวะ ที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดค่ะ

5. ปราสาทมารุกาเมะ (Marugame Castle) – ปราสาทบนเนินสูงวิวพาโนรามาทะเลเซโตะใน

หากคุณกำลังมองหา ที่เที่ยวคากาวะ ที่ผสมผสานทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิวทิวทัศน์สุดตระการตาไว้ในที่เดียว ขอแนะนำให้ลองแวะไปยัง ปราสาทมารุกาเมะ (Marugame Castle) ปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ใจกลางเมืองมารุกาเมะ จังหวัดคากาวะ

จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ “กำแพงหิน” สูงชันที่เรียงตัวอย่างสง่างามจากเชิงเขาจนถึงตัวปราสาทด้านบน และถือว่าเป็นหนึ่งในกำแพงหินที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ตัวอาคารหลักของปราสาท (Tenshu) แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่เท่าปราสาทในเมืองใหญ่ๆ แต่ก็ยังคงสภาพดั้งเดิมแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม และที่สำคัญคือ เป็น 1 ใน 12 ปราสาทญี่ปุ่นที่ยังคงโครงสร้างดั้งเดิมยุคเอโดะไว้ครบถ้วน!

เมื่อเดินขึ้นไปถึงยอดเนิน คุณจะได้พบกับวิวแบบ 360 องศา ทั้งเมืองมารุกาเมะ ทะเลเซโตะใน และภูเขาที่อยู่ล้อมรอบ บรรยากาศช่วงเช้าหรือเย็นที่มีหมอกบางลอยคลอเคลียกับทะเล คือความงดงามที่ยากจะลืม

สำหรับใครที่สงสัยว่า เที่ยวคากาวะช่วงไหนดี หากตั้งใจจะมาเยือนปราสาทแห่งนี้ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – เมษายน) และฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ตุลาคม – พฤศจิกายน) คือช่วงเวลาที่เหมาะที่สุด เพราะคุณจะได้ชมซากุระบานรอบปราสาท หรือใบเมเปิลสีแดงส้มที่ตัดกับกำแพงหินสีเทาได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะช่วง คากาวะ ใบไม้เปลี่ยนสี ที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเองก็มักจะเดินทางมาถ่ายภาพและเดินเล่นในสวนปราสาทแห่งนี้กันอย่างคึกคัก

หากคุณหลงใหลประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ชอบถ่ายภาพวิวมุมสูง หรือกำลังมองหาสถานที่ที่ไม่แมสส์แต่เปี่ยมด้วยเรื่องราว — ปราสาทมารุกาเมะ จะเป็นหนึ่งใน ที่เที่ยวคากาวะ ที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

คากาวะ อาจจะเป็นจังหวัดเล็กที่สุดในญี่ปุ่น แต่เต็มไปด้วย "เพชรเม็ดงาม" ที่ซ่อนอยู่ในทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็น สวนริทสึริน ที่เที่ยวคากาวะ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสวนญี่ปุ่นที่งดงามที่สุดในประเทศ หรือ เกาะโชโดะชิมะ คากาวะ ซึ่งมีทั้งวิวทะเลสวยๆ ไร่ต้นมะกอกเขียวขจี และสะพานทราย Angel Road อันโรแมนติก นอกจากนี้ ในฤดูใบไม้ร่วง คากาวะ ใบไม้เปลี่ยนสี ยังแต่งแต้มสีสันให้ทั่วทั้งภูเขาและสวนกลายเป็นภาพงดงามจนแทบลืมหายใจ

ถ้าคุณกำลังหาคำตอบว่า เที่ยวคากาวะช่วงไหนดี ความจริงก็คือไม่ว่าฤดูไหนก็น่าไป เพราะคากาวะมีเสน่ห์เฉพาะตัวในแต่ละช่วงเวลา หากชื่นชอบบรรยากาศสดใสของดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิ แนะนำให้เดินทางช่วงมีนาคมถึงเมษายน แต่ถ้าอยากสัมผัสลมเย็นและชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติก ช่วงตุลาคมถึงพฤศจิกายน คือเวลาที่ดีที่สุด

การเที่ยวคากาวะไม่ใช่แค่การเดินทางไปยังที่หมายหนึ่งเท่านั้น แต่คือการได้เปิดโลกอีกใบ — โลกที่ยังคงความเรียบง่าย ความสงบ และความอบอุ่นของวัฒนธรรมท้องถิ่นเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ใครที่เบื่อเส้นทางท่องเที่ยวเดิมๆ หรืออยากค้นหามุมมองใหม่ๆ ของญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เที่ยวคากาวะ คือตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้

ลองออกเดินทางไปยัง สวนริทสึริน ที่เที่ยวคากาวะ แล้วหยุดเวลาไว้ใต้ต้นสนเก่าแก่ ลองแวะไปยัง เกาะโชโดะชิมะ คากาวะ เพื่อสูดกลิ่นมะกอกหอมๆ ท่ามกลางลมทะเลอ่อนๆ หรือเลือกชม คากาวะ ใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูที่ธรรมชาติสวยที่สุด แล้วคุณจะพบว่า... ที่เที่ยวเล็กๆ แห่งนี้ อาจกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ในดวงใจที่คุณอยากกลับมาเยือนอีกครั้ง

เที่ยวคากาวะแบบพรีเมียม กับ CompaxWorld

หากคุณอยากสัมผัสประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นแบบเจาะลึก ไม่เหนื่อย ไม่รีบเร่ง และได้เก็บทุกมุมสวยในสไตล์ Small Group ลองเลือกเดินทางไป คากาวะ กับ CompaxWorld สิคะ

สนใจสอบถามหรือจองทริป LINE : @compaxworld  โทร. 02-169-1766 | 082-793-6146