แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์


10 วัน คลาสสิค แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ กับ เส้นทางสุดคลาสสิค ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี

แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ | COMPAXWORLD
แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ | COMPAXWORLD

แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ | COMPAXWORLD
แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ | COMPAXWORLD

แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ | COMPAXWORLD
แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ | COMPAXWORLD

แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ | COMPAXWORLD
แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ | COMPAXWORLD

แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ | COMPAXWORLD
แกรนด์สวิตเซอร์แลนด์ | COMPAXWORLD

รหัส: SUI - 01

เที่ยวชวนชิม

ยุโรป: สวิสเซอร์แลนด์-ซูริค

10 วัน 7 คืน

เหมาะสำหรับ :          


Bangkok Airways

เริ่มต้น ฿ 0 * ราคานี้ยังไม่รวมตั๋วเครื่องบิน
ไฮไลท์ทัวร์
แกรนด์สวิต
ขึ้นเขาจุงเฟรา
ปราสาทชิลยอง
12 แลนด์มาร์ก
รถไฟกลาเซียร์
CABLE CAR
พักระดับ 3 ดาว
22 มื้ออาหาร
รายการทัวร์
ระยะเวลา : 10 วัน 7 คืน

วันที่ 1 : วันแรก กรุงเทพมหานคร – ซูริค

21.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินสวิสแอร์ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
  หมายเหตุ :
 
  1. ท่านต้องแสดงวัคซีนพาสปอร์ตการได้รับวัคซีน Covid 19 ครบ 2 เข็ม ในขณะเช็คอิน 
  2. เอกสารการเข้าเมือง  Entry form Switzerland  จะต้องทำภายใน 48 ชม. ก่อนบิน (ทางทัวร์ดำเนินการให้)
  3. ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2564 นี้เป็นต้นไป การเข้าร้านอาหาร และ โรงแรมในสวิตเซอร์แลนด์ ทุกท่านต้องทำ Swiss Covid Certificate (online) ซึ่งจะส่งใบ Certificate เข้าอีเมล์ (มีค่าใช้จ่าย 30 CHF ทางทัวร์ยินดีบริการทำให้ ค่าใช้จ่ายจะเรียกเก็บในอินวอยซ์เป็นเงิน 1,100 บาทต่อท่าน)

 

วันที่ 2 : วันที่สอง ซูริค – น้ำตกไรน์ – ดาวอส – เซนต์โมริตส์

00.22 น. ออกเดินทางสู่นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (บินตรง) โดยสายการบินสวิสแอร์ เที่ยวบิน LX181 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.45 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินมีบริการ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินตรง สู่นครซูริค
06.10 น.

เดินทางถึงสนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

08.00 น. นำท่านเดินทางสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) (ระยะทาง 50 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เมืองที่มีความสวยงามเต็มไปด้วยกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมเรอเนซองซ์ และอาคารสไตล์คลาสสิก นำท่านเที่ยวชมและสัมผัสความงามของน้ำตกไรน์ น้ำตกที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา อิสระให้ท่านได้สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณและเก็บภาพความงามตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองดาวอส (Davos) (ระยะทาง 172 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชม.) เมืองนี้ได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน World Economic Forum (WEF) ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของทั่วโลก ในทุกๆปี เมืองดาวอส (Davos) ตั้งอยู่เขตรอบแม่น้ำ Landwasser ซึ่งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ระหว่าง ภูเขา Plessur และ ภูเขา Albula ที่ความสูง 1,560 เมตร (5,120 ฟุต) ซึ่งเป็นเมืองที่สูงที่สุดในยุโรป และเมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองสกีรีสอร์ท ที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ และสูงที่สุดในยุโรป นอกจากนี้เมืองนี้ยังโด่งดัง เรื่องของอากาศที่ดี สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การรักษา และฟื้นตัวจากโรคปอด เมืองนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย โดยในธนบัตรที่ระลึกฉบับละ 20 บาท ที่ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดพิมพ์ขึ้นโดย ได้เชิญพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในหลวง ร.9 เมื่อสมัยยังทรงพระเยาว์ ซึ่งทรงฉาย ณ โรงแรมเซโฮฟ (Seehof hotel) ซึ่งอยู่ที่เมืองดาวอส (Davos) มาเป็นภาพประธาน นำท่านแวะถ่ายรูปกับโรงแรมเซโฮฟ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
 
 บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเซนต์โมริตส์ (St. Moritz) (ระยะทาง 67 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)  เมืองที่อยู่ในหุบเขา Engadine ของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูงที่ 1,775 เมตรเหนือน้ำทะเล ซึ่งทางตะวันออกของเทือกเขามียอดภูเขา Piz Bernina ตระหง่านสูงที่สุด ที่ระดับ 4,049 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เมืองเซนต์โมริตส์ แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่อยู่บนเขา และส่วนที่ราบโดยมีทะเลสาบขั้นอยู่ตรงกลาง เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงและศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตัวเมืองตั้งอยู่ในรัฐเกราบึนเดิน(Graubünden) เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ตั้งอยู่บนยอดที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับเซนต์โมริตส์ (Lake St. Moritz) ซึ่งจะพบกับความงดงามของน้ำใสสีเขียวมรกตในช่วงฤดูร้อน แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง อิสระให้ท่านได้เดินเล่น หรือเลือกซื้อของฝาก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนม หรือ สินค้าพื้นเมือง ในย่านจตุรัสพลาซาดาสโกวล่า (Plazza da Scoula) หรือจะเดินเล่นชมความงามของเมืองสกีรีสอร์ทแห่งนี้
 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
   นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Europa St. Moritz / Reine Victoria by Laudinella*** หรือเทียบเท่า 
   

วันที่ 3 : วันที่สาม อันเดอร์มัท - นั่งรถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส – เซอร์แมท (พักค้าง 2 คืน)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
  นำท่านเดินทางสู่เมืองอันเดอร์มัท (Andermatt) (ระยะทาง 224 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)หมู่บ้านในรัฐอูรี สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในหุบเขาที่เรียกว่าอัวร์เซอเริน อันเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำร็อยส์ อันเดอร์มัทถือเป็นหมู่บ้านที่เป็นจุดบรรจบกันของช่องเขาที่สำคัญสามช่องเขา ได้แก่ ช่องเขาโอเบอร์อัลพ์ทางทิศตะวันออก, ช่องเขาก็อทฮาร์ททางทิศใต้ และช่องเขาฟัวร์คาทางทิศตะวันออก เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่อากาศดีอีกแห่งและมีทัศนียภาพที่สวยงาม ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ยลทิวทัศน์อันสวยงามสองข้างทาง นอกจากนี้อันเดอร์มัทยังเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาขึ้นรถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นรถไฟที่นั่งชมวิวทิวทัศน์และบรรยากาศของเมืองเล็กๆตลอดเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งของสวิตเซอร์แลนด์
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านสัมผัสบรรยากาศ นั่งไฟสายโรแมนติกสายกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) รถไฟที่ได้ชื่อว่าวิ่งช้าที่สุดในโลก และเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันจะได้สัมผัส ตลอดการนั่งรถไฟกว่า 3 ชั่วโมงจากเมืองอันเดอร์แมท (Andermatt) สู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ระหว่างทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกโอบล้อมอยู่ในอ้อมกอดของหุบเขาและสายน้ำสีฟ้าครามสดใสของทะเลสาบ หรือจะเป็นทัศนียภาพของภูเขาที่พาดผ่านกลางเทือกเขาแอลป์ ยอดเขาความสูงกว่า 3,000 เมตร ที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านได้พักผ่อนและเก็บภาพธรรมชาติอันสวยงามและขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟสิ้นสุดการเดินทาง ณ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) ตั้งอยู่เชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์นยอดเขาแหลมสูงชันสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ ครอบคลุมพื้นที่สกีฤดูหนาวและฤดูร้อนที่กว้างใหญ่ เมืองเซอร์แมทนี้ถือว่าเป็นเมืองที่ปราศจากมลภาวะโดยสิ้นเชิงเพราะเป็นเมืองที่ห้ามนำเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเข้าไปในตัวเมืองเด็ดขาด นำท่านเที่ยวชมความงามของเมืองเซอร์แมทเมืองที่ปราศจากรถยนต์และไร้มลพิษอีกแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์
 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
 

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Astoria Zermatt **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

   

วันที่ 4 : วันที่สี่ เซอร์แมท – เคเบิ้ลสู่ยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น – ซาสเฟ (เมืองไร้มลพิษ) - ไอซ์พาวิลเลียน

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
  นำท่าน นั่งกระเช้าสู่แมทเทอร์ฮอร์นกลาเซียร์พาราไดซ์ (Matterhorn Glacier Paradise) เพื่อชมภูเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่มีชื่อเสียงในเทือกเขาแอลป์ (Alps) ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ภูเขาที่สูงกว่า 4,478 เมตร รูปทรงพีระมิดตั้งอยู่บนพื้นที่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงามไม่เว้นแต่ละวัน “ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น” นี้มีความสวยงาม มีเสน่ห์ เป็นเครื่องหมายการค้าของลูกอม “ริกัวล่าร์” และ “พาราเมาต์พิกเจอส์” โดยบริษัทภาพยนตร์ พาราเมาต์พิกเจอส์ ของฮอลลีวูด ได้นำมาเป็นตราสัญลักษณ์ของบริษัทอีกด้วย ท่านสามารถชมวิวสวยของภูเขาที่มีรูปทรงงดงามที่สุดในสวิสด้วยความสูงของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่มีความสูงกว่า 4,478 เมตร จึงสามารถมองเห็นยอดเขาสูงยอดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้ชัดเจน อิสระให้ท่านเดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นได้เวลานำท่านนั่งกระเช้าเดินทางกลับสู่ เมืองเซอร์แมท (การให้บริการของกระเช้า ขึ้นกับสภาวะอากาศ ณ วันนั้นๆ ขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการหากสภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวย)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บน Matterhorn Glacier Paradise
  (***หากห้องอาหารไม่สามารถรองรับคณะได้ บริษัทจะนำท่านรับประทานอาหารที่เมืองเซอร์แมทแทน)
 
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองซาสเฟ (Sass Fee) หมู่บ้านเล็กๆในเมืองวิสป์ (Visp) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ มีประชากรราว 1,600 คนเท่านั้น แต่กระนั้นก็มีชื่อจากทำเลที่ตั้งซึ่งแวดล้อมด้วยภูเขาสูงเสียดฟ้ามากถึง 18 ลูก ทำให้ซาสเฟกลายเป็นปลายทางยอดฮิตสำหรับผู้ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว ถึงขั้นได้รับฉายาว่า The Pearl of the Alps หรือไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์เลยทีเดียว เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองปลอดมลพิษ 1 ใน 5 เมืองของสวิตเซอร์แลนด์ที่ไม่มีรถยนต์วิ่ง มีอากาศที่บริสุทธิ์มาก นำท่านขึ้นเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาอะลาลิน (Allalin Cable Car) เพื่อชมความสวยงามของยอดเขาที่รายล้อมโดยรอบ นับเป็นอีกทัศนียภาพที่สวยงามมาก ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเซอร์แมท อิสระให้ท่านเดินเล่นหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
  นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Astoria Zermatt **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
   

วันที่ 5 : วันที่ห้า มองเทรอ – ปราสาทชิลยอง – เวเวย์ – โลซานน์ – เจนีวา

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
  นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) โดยรถไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 12 นาที นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอ (Montreux) (ระยะทาง 139 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม.) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือนริมทะเลสาบ นำท่านเข้าชมปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ซาวอย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) เมืองเล็กๆระหว่างทางสู่เมืองโลซานน์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับรูปปั้นชาร์ลี แชปลิน (Chaplin Statue) ผู้เป็นศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งในอดีตได้เคยใช้บั้นปลายชีวิตที่เมืองนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) นำท่านชมเมืองโลซานน์  ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เมืองโลซานน์ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา จึงมีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า นำท่านผ่านชมอพาทเม้นท์หมายเลข 16 (Apartment no.16 ) บนถนนทิซโซ (Avenue Auguste Tissot) ซึ่งในอดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และบุตรธิดาที่สามพระองค์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9  ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระยะเวลาสองปี ระหว่างปี พ.ศ. 2476-2478 นำท่านเดินชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของยุวกษัตริย์ทั้งสองพระองค์เมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ (Le PavillonThailandais) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเดอนองตูเขตเมืองโลซานน์ จัดสร้างโดยรัฐบาลไทย สร้างขึ้นจากไม้สัก และมียอดศาลาสูง 9 เมตร เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงครองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์รอบ 75 ปี โดยมีสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จไปประกอบพิธีเปิดศาลาและส่งมอบอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2552
 
  ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เจนีวา (Geneva) (ระยะทาง 68 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณที่ทะเลสาบเจนีวาไหลเข้ารวมกับแม่น้ำโรห์น (Rhone river) โดยทะเลสาบเจนีวานั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง รองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี สำหรับ กรุงเจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ (Global City) เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร นำท่านชมน้ำพุเจดโด กลางทะเลสาบเลคเลมังค์ น้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าสูงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเจนีวา โดยสามารถมองเห็นได้จากทุกจุดในเมือง น้ำพุเจดโดเป็นน้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น "สัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา" โดยน้ำพุสามารถพุ่งได้สูงสุดประมาณ 140 เมตร (459 ฟุต) น้ำพุถูกติดตั้งในปี 1886 นำท่านถ่ายรูปกับนาฬิกาดอกไม้ที่สวนอังกฤษ (Jardin Anglais) ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
 

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Geneva Hotel **** หรือเทียบเท่า

 

วันที่ 6 : วันที่หก เจนีวา – เนอชาแตล – เบิร์น

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
  นำท่านเดินทางสู่เมืองเนอชาแตล (Neuchatel) เมืองแห่งปราสาทของสวิส ตั้งอยู่บนชายฝั่งของทะเลสาบเนอชาแตล (Lake Neuchatel) ทะเลสาบที่มีชื่อเดียวกันกับเมืองและรัฐ นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทเนอชาแตล (Chateau de Neuchatel) ปราสาทเก่าแก่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมือง โดยปราสาทตั้งอยู่บนยอดเนินเขาเล็กๆใจกลางเมืองเก่า จากนั้นนำท่านเข้าชมโบสถ์คอลเลกีอาเลอ (Collegiale de Neuchatel) โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาและอยู่ติดกันกับปราสาทเนอชาแตล ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 ในสไตล์ Roman rhenan โดยมีหลังคาเป็นแบบกอธิค ภายในได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และมีการบูรณะมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันโบสถ์แห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆของเมืองอีกแห่ง ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเบิร์น
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Berne) (ระยะทาง 53 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพง และสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นำท่านชมกรุงเบิร์นซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค   เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1191 - 1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก แต่พอมีการสร้าง Prison Tower จึงเปลี่ยนไปใช้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน และดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมเป็นหอนาฬิกาพร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไป
 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
 

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Holiday Inn Westside Hotel **** หรือเทียบเท่า

   

วันที่ 7 : วันที่เจ็ด เบิร์น – อินเตอร์ลาเคน – ขึ้นเขาจุงเฟรา (มรดกโลก)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
  นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) หรือ เมืองระหว่างทะเลสาบ (ระยะทาง 62 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ พร้อมช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่นๆ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาล (Grindelwald) อันได้ชื่อว่าเป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในโลกตั้งอยู่ใน  หุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงามและโรแมนติกที่สุด นำท่านสู่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อขึ้นรถไฟสายจุงเฟราบาห์เนนสู่ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของสวิส ระหว่างทางก่อนถึงจุงเฟรานั้น ท่านสามารถพบเห็นบ้านสไตล์สวิสน่ารักๆ  ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีทั้งบ้านสีน้ำตาลเข้มตัดกับหน้าต่างสีแดงสด, สีครีมอ่อนตัดกับประตูหน้าต่างสีเขียวสด สวยงามแปลกตาและมีเสน่ห์  วิวธรรมชาติที่สลับกันระหว่างสีเขียวของภูเขา ทุ่งหญ้า กับพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ระหว่างการเดินทางรถไฟจะจอดให้ท่านได้ชมความงดงามของเทือกเขาแอลป์ จนถึงยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งมีความสูงถึง 13,642 ฟุต เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป (Top of Europe) นำท่านชม กลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร นำท่านชมถ้ำน้ำแข็งที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 กม. และหนา 700 เมตร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางจากจุงเฟราสู่ เมืองเวนเก้น และเมืองเลาเท่นบรุนเน่น โดยรถไฟอีกด้านหนึ่งของยอดเขา (แวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไคลน์ไชเด็ด จุดเปลี่ยนรถไฟ ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาเมื่อปี 2440)
 
  นำท่านตรวจ RT-PCR Test  (ค่าตรวจไม่รวมในค่าทัวร์ ประมาณ CHF 100-150) ได้รับผลผ่านทางอีเมล์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
 

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Du Nord Interlaken ***** หรือเทียบเท่า

   

วันที่ 8 : วันที่แปด ลูเซิร์น – ซุก – ซูริค

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
  นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ระยะทาง 63 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) อดีตหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม นำท่านเดินเล่นและถ่ายรูปกับสะพานไม้ชาเพล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี  เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว จากนั้นนำท่านชมรูป แกะสลักสิงโตร้องไห้ หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสะพานไม้มากนัก อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆริมทะเลสาบที่มีประวัติยาวนานและสวยงามอีกแห่งของสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่าซุก (Old town) ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนโบราณได้เป็นอย่างดี นำท่านแวะถ่ายรูปกับหอนาฬิกาดาราศาสตร์ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 อิสระให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศเมืองเก่าได้แบบเต็มอิ่มสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
 

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Zurich Airport Mess **** หรือเทียบเท่า 

 

   

 

วันที่ 9 : วันที่เก้า ซูริค - กรุงเทพมหานคร

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
  นำท่านถ่ายรูปกับ Munsterbrucke ซึ่งเป็นสะพานข้ามถนนและทางเดินทางในเมืองเก่า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำลิมมัต และเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์ Crash Landing on You นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีวิหาร Fraumunster and Gross Munster อีกด้วย จากนั้นนำท่านสู่ Linderhof Strasse ซึ่งเป็น ฉากเปิดเรื่อง และเป็นจุดชมวิวเมืองซูริคอันเลื่องชื่อ พร้อมกับวิวแม่น้ำลิมมัต อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือ จะเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
 

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ Lindt Home of Chocolate ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชอคโกแลตลินด์ ส่งออกที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ ให้ท่านได้เลือกซื้อชอคโกแลตเป็นของฝากได้ตามอัธยาศัย
19.00 น. นำท่านสู่สนามบิน เพื่อเช็คอิน และทำ Tax Refund
22.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ LX180 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.50 ชั่วโมง)

 

วันที่ 10 : วันที่สิบ กรุงเทพมหานคร

14.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

 

มื้ออาหาร
โรงแรมและที่พัก
ช่วงเดินทาง
ช่วงเดินทาง ผู้ใหญ่ เด็ก > 5 ปี เด็กอายุ <= 5 ปี ห้องเดี่ยว (เพิ่ม)
ค่าทัวร์รวมอะไร
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
ห้องพัก
ตั๋วเข้าสถานที่ ตามที่ระบุ
มื้ออาหารตามตารางระบุ
ค่าวีซ่า
รถนำเที่ยว
ภาษีสนามบิน
ค่าประกันภัย 1.5 ล้านบาท
ค่าตรวจ PCR TEST
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
เจ้าหน้าที่ยกกระเป๋า
Vat 7% (สำหรับใบกำกับภาษี)
ห้องพักกักตัว 1 วัน
ตั๋วเข้าชม นอกจากที่ระบุ
เงื่อนไขทัวร์

ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ

  • สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง กรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 กก. , กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 7 กก.

หมายเหตุ :

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจราจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู

ตั๋วเครื่องบิน

  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

โรงแรมและห้อง

  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง

(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้

  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน

  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ

  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)

การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย

  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

เอกสารประกอบการขอวีซ่าเชงเก้น

(ใช้เวลาในการขอวีซ่าประมาณ 5-7 วันทำการ)

สถานทูตไม่อนุญาตให้ดึงเล่มพาสปอร์ต หากได้ยื่นเข้าไปแล้ว ดังนั้นถ้าท่านรู้ว่าต้องใช้เล่มกรุณาแจ้งบริษัททัวร์ฯ

เพื่อขอยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนกรุ๊ป และให้แนบตั๋วเครื่องบินในช่วงที่ท่านจะเดินทางมาด้วย

(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และ เตรียมให้ครบ)

  1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
  2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 ซ.ม. x 4.5 ซ.ม. จำนวน 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานทูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้)
  3. สำเนาวัคซีนพาสปอร์ต หรือหลักฐานแสดงการได้รับวัคซีนครบโดส
  4. สำเนาบัตรประชาชน
  5. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
  6. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
  7. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
  8. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา)
  9. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
    1. เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
    2. เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)
    3. เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา) 
  10. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ

จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานทูตและประเทศ)

  • กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
  • กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
  • กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน
  • กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
  • กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
  • กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา
  1. หลักฐานการเงิน(กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank Statement และ สำเนาบัญชี เล่มเดียวกัน)
    1. หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank Statement) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า ต้องมีตราประทับจากทางธนาคาร
    2. สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน และยอดแสดงในบัญชีต้องไม่ก้าวข้ามเดือน (ปรับสมุดและสำเนา 15 วันก่อนยื่นวีซ่า) ให้ธนาคารประทับตรารับรองสำเนาทุกหน้า

            ข้อ 1 และ ข้อ 2 ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น 

หมายเหตุ : หากสมุดบัญชีแสดงยอดรวมที่มีการกระโดดข้ามเดือน (ยอดไม่ต่อเนื่อง) เช่นจากเดือน 1 ข้ามไปเป็นยอดของ เดือน 3 (เดือน 2 ไม่มี) ท่านต้องไปขอ Bank statement จากทางธนาคารแทนการถ่ายสำเนาสมุดบัญชี

                 3. บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย

หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียมดังนี้

  • หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีฝากประจำ (Fixed account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
  • สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน

          หมายเหตุ หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้

  • หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย)
  • กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน

กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง

  • จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
  • หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2

  (สถานฑูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)

  การชำระเงิน          งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน

                              งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

 

กรณียกเลิก         

  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)     
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง      
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%
  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก   วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only)

*ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม

รหัส: SUI - 01

เที่ยวชวนชิม

ยุโรป: สวิสเซอร์แลนด์-ซูริค

10 วัน 7 คืน

เหมาะสำหรับ :          


Bangkok Airways

เริ่มต้น ฿ 0 * ราคานี้ยังไม่รวมตั๋วเครื่องบิน

ทัวร์แนะนำ

พฤษภาคม
Japan Airline
วัน คืน
ญี่ปุ่น-ฮอกไกโด-โตเกียว
THE BEST OF THE YEAR (HOKKAIDO – TOKYO) | 15-22 MAY 2024 | ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ชมทุ่งพิงค์มอส | ชมดอกทิวลิปกว่า 1,200,000 ดอก ณ สวนคามิยุเบ็ตสึ
เหมาะสำหรับ :        
เริ่มต้น
฿138,000
มิ.ย. - ก.ค.
Japan Airline
วัน คืน
ญี่ปุ่น-ฮิโรชิม่า
LOVE STORY SHIMANE (DAN DAN JAPAN) | 24 JUN-01 JUL | 22-29 JUL 2024 | ขอพรเสริมดวงความรัก ศาลเจ้าอิซึโมะไทชะ คนโสดห้ามพลาด | ร่วมทำ เครื่องรางมางาทามะ เพื่อเสริมพลังความเป็นสิริมงคล
เหมาะสำหรับ :          
เริ่มต้น
฿88,800
ก.ค. - ส.ค.
Japan Airline
วัน คืน
ญี่ปุ่น-อาโอโมริ-หุบเขาเกบิเคย์
CLASSIC TOHOKU (AOMORI – GEIBIKEI – TOKYO) | 23-29 JUL | 19-25 JUL 2024 | ชมเทศกาล Tanbo Art ศิลปะบนนาข้าว 1 ปีมีครั้งเดียวเท่านั้น | กิจกรรม ทำพายแอปเปิ้ล ผลไม้ขึ้นชื่อของอาโอโมริ
เหมาะสำหรับ :          
เริ่มต้น
฿98,900